ชื่อวิทยาศาสตร์ : Millingtonia hortensis L.f.
ชื่อสามัญ : Cork
Tree , Indian Cork
วงศ์ : BIGNONIACEAE
ชื่ออื่น :
กาซะลอง กาดสะลอง (ภาคเหนือ) เต็กตองโพ่ (กะเหรี่ยง-กาญจนบุรี)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงประมาณ 5-10 เมตร ลำต้นตรง
เปลือกมีสีเทาเข้มแตกเป็นร่องลึก มีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อ เจริญเป็นต้นใหม่ได้
ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ชั้น กว้าง 13-20 ซม. ยาว 16-26 ซม. ก้านใบยาว 3.5-6 ซม.
ตัวใบประกอบด้วยแกนกกกลางยาว 13-19 ซม. มีใบย่อย 4-6 คู่ ใบย่อย 4-6 คู่ กว้าง
2.5-3 ซม. ยาว 4-5 ซม. มีรูปร่างเป็นรูปหอกแกมรูปไข่ ฐานใบรูปลิ่ม
ขอบหยักเป็นซี่หยาบ ปลายเรียวแหลม เนื้อใบบางคล้ายกระดาษ เกลี้ยง
ดอกเป็นดอกช่อกระขุกแยกแขนง ยาว 10-25 ซม. ดอกย่อยประกอบด้วย กลีบเลี้ยง มีสีเขียว
กว้างประมาณ 0.5 ซม. ยาวประมาณ 0.5 ซม. เชื่อมกันเป็นรูประฆังปลายตัด
กลีบดอกมีสีขาว กลิ่นหอม กว้างประมาณ 0.5 ซม. ยาว 6-10 ซม.
เชื่อมกันเป็นหลอดปากแตร แยกเป็น 5 แฉก 3 แฉกรูปขอบขนาน 2 แฉกล่างค่อนข้างแหลม
เกสรเพศผู้มีจำนวน 4 อัน สองคู่ยาวไม่เท่ากัน เกสรเพศเมียมีจำนวน 1 อัน
อยู่เหนือวงเกลีบ ออกดอกประมาณเดือนพฤศจิกายน - พฤษภาคม ผล เป็นผลแห้งแตก
ลักษณะแบนยาวขอบขนาน มีเนื้อ เมล็ดมีจำนวนมา เป็นแผ่นบางมีปีก
ถิ่นกำเนิด :
การกระจายพันธุ์ :
การกระจายพันธุ์ในประเทศไทย : ป่าเบญจพรรณทางภาคเหนือ ภาคตะวันตก
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สภาพนิเวศน์ : ป่าเบญจพรรณที่ค่อนข้างแห้งแล้งทั่วไป
เวลาออกดอก : กันยายน – พฤศจิกายน บานเวลาเย็น
เวลาออกผล :
การขยายพันธุ์ : เมล็ด
ตอนกิ่งหรือนำรากมาตัดเป็นท่อนๆแล้วนำมาชำในกระบะทรายที่ผสมขี้เถ้าแกลบ
ความเกี่ยวข้องกับประเพณี วัฒนธรรม ความเชื่อ ฯลฯ : คนไทยโบราณเชื่อว่า
บ้านใดปลูกต้นปีปไว้ประจำบ้านจะทำให้เก็บเงินเก็บทองได้มาก เพราะ ปีป คือ
ภาชนะที่ใช้ในการบรรจุของ ดังนั้นคนไทยโบราณเรียกภาชนะใส่ของที่มีค่าว่า ปีปเงิน
ปีปทอง นอกจากนี้ยังเชื่ออีกว่าสามารถทำให้มีชื่อเสียงโด่งดัง
เพราะปีปมีลักษณะแข็งและโปร่ง เวลาเคาะหรือตีจะเกิดเสียงดังไปไกล
สถานที่พบในโรงเรียน : ตึก 1 ตึก 60 ปี
อ้างอิง:
http://www.nanagarden.com/ลักษณะพฤกษศาสตร์ของปีบ-10180-13.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น